วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Shades 01 st ; At first sight. (soonchan)



"ผมกินได้ไหมนะ"

ไม่รอคำตอบจากเขา เด็กเมาหนักก็รั้งคอเขามาจูบอีกครั้ง การละเลียดชิมริมฝีปากโดยไม่รุกล้ำเพราะยังอ่อนทาง บวกกับกลิ่นกายหอมกรุ่นทำให้นายแพทย์หนุ่มเริ่มร้อนเป็นไฟ ยิ่งเมื่อฟันซี่เล็กขบริมฝีปากล่างของเขาอย่างเอาแต่ใจ ประหลาดใจ ไฟราคะถูกจุดติดโดยง่าย เมื่อเจ้าของร่างบางคิดผละออก ซูนยองจึงเป็นฝ่ายรั้งต้นคอสวยนั่นไว้ ก่อนจะดันร่างบางให้ชิดผนัง ป้อนจูบที่เหนือขั้นให้ผู้อ่อนวัยมากกว่าอย่างชำนาญ กลิ่นครีมอาบน้ำที่เขาใช้ทุกวันหอมรัญจวนยิ่งขึ้นเมื่อคละกับกลิ่นกายหอมกรุ่นของร่างบางที่ตกอยู่ภายใต้การนำของเขา
ซูนยองหลุดจากการควบคุม เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ทั้งนั้น
สติหลุดกระเจิงเหมือนผึ้งที่บินว่อนเมื่อถูกตีรัง มือหนาประคองใบหน้าเล็กไว้ ริมฝีปากยังตักตวงและดูดกลืนเยลลี่นุ่มนิ่มสีสดที่ขยับตอบรับจังหวะของเรียวลิ้นอย่างเงอะงะ รสแอลกอฮอร์คละคลุ้งทั่วโพรงปากมอมเมาสติ และส่งความหวานอย่างล้ำลึก.. ราวดึงดูดวิญญาณ
มือเรียวที่โอบรอบคอเปลี่ยนมาทุบหลัง เป็นสัญญาณว่าเจ้าของริมฝีปากนุ่มอาจถูกกลืนวิญญาณจริงๆ เนื่องจากขาดอากาศหายใจ ซูนยองจึงยอมผละออกมาเพื่อให้อีกฝ่ายได้สูดลมหายใจ เจ้าของร่างน้อยหายใจหอบหนักจนอกกระเพื่อมเป็นจังหวะหายใจ ม่านตาคมจับจ้องปากที่แดงเรื่อ เรียวปากสีสดเผยอน้อยๆ น้ำสีใสไหลจากมุมปาก
ซูนยองเข้าจู่โจมอีกฝ่ายอีกครั้ง ไล่ต้อนริมฝีปากบางเฉียบอย่างไม่ปราณี แรงจิกที่ไหล่ทั้งสองข้างไม่อาจหยุดหยั้งความต้องการที่พุ่งสูงขึ้น ภายในห้องเงียบสงัด มีเพียงเสียงฟ้าร้องเคล้าไปกับเสียงฝน นายแพทย์หนุ่มเคลื่อนริมฝีปากร้อนจูบซับหยาดน้ำใสจากมุมปากไปตามแนวคางสวย ก่อนลากจูบที่หนักหน่วงไซร้ซอกคอหอมกรุ่น กดจูบทั่วหลังคอขาว จนผิวที่ขาวจัดขึ้นสีเรื่อ
"อ๊ะ"
เสียงครางเบาๆจากผู้ถูกสำรวจทำให้คนที่ผันตัวเป็นฝ่ายสำรวจได้ตื่นตัว ร่างเล็กที่แนบชิดผนังห้องนั้นสั่นไหวอย่างน่าเอ็นดู ซูนยองชะงักไปชั่วขณะ แล้วกดจูบกกหูด้วยแรงอารมณ์ที่ไม่อาจหยุดยั้ง
"อ๊ะ พ พี่หมอ"
"..."
หอม
หอมเสียจนไม่อยากละออกไป
หอมและหวานจนอยากกลืนกินไปทั้งตัว
"พ พี่หมอ.. อ๊ะ"
เอ่ยเรียกนามของเขาด้วยเสียงกระเส่า อดไม่ได้ที่ซูนยองจะขบใบหูเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว เรียกความเสียวซ่านจากเด็กหนุ่มที่น่าจะอ่อนกว่าหลายปีให้เผลอหลุดครางออกมาอีกครั้ง
น่ารัก
น่ารักเสียจนอดใจไม่ไหว
พรึ่บ!
ไฟฟ้าในห้องดับลงพร้อมเสียงฟ้าร้องดังลั่นจนเขารู้สึกถึงความสั่นสะเทือนของพื้นดิน ร่างบางที่อยู่ภายใต้การควบคุมสั่นระริก ตาคู่ใสประกายฉ่ำเยิ้มแม้จะอยู่ในความมืด เรียวปากสีสดขยับว่า
"พี่หมอนิสัยไม่ดี แกล้งให้ชานหายใจไม่ออก"
"..."
เอ่ยดุเขาด้วยเสียงอ้อแอ้
"แล้วพี่หมอน่ะ.."
"..."
"ทำให้ชานรู้สึกร้อนมากๆด้วย ชานไม่อยู่กับพี่หมอแล้ว"
กล่าวจบ เด็กตัวหอมก็เดินหนีไปอีกทางอย่างไม่รู้ทิศ ทว่า
หมับ!
มือใหญ่กว่ากลับเอื้อมจับแขนเล็กไว้ทัน เพียงเสี้ยววินาทีที่กะพริบตา หนุ่มน้อยก็ถูกแพทย์หนุ่มช้อนตัวไพล่หลัง อีชานที่ยังมึนและจับทิศทางไม่ได้-ไม่ขัดขืนแต่อย่างใด หนุ่มน้อยไม่รู้ความคิดของคนตัวโตกว่า ว่ากำลังจะพาตนไปไหน เป้าหมายปลายทางคือที่ใด
"อึก.. โลกกลับหัว"
"..."
"พี่หมอ.. จะพาชานไปไหน"
ไม่มีคำตอบจากปากของซูนยอง คนตัวเล็กที่ถูกแบกไว้บนบ่าใกล้เคลิ้มหลับเต็มที จังหวะการเดินสม่ำเสมอของซูนยองเป็นเหมือนตัวขับกล่อมที่ดี แต่เด็กหนุ่มกลับไม่ได้หลับอย่างที่ตั้งใจ ทันทีที่แผ่นหลังบางสัมผัสพื้นผิวนุ่มของเตียงหลังกว้าง กรงแขนแกร่งของบุคคลเบื้องบนก็ขังเขาไว้ ราวกับเป็นนักโทษที่ทำความผิดร้ายแรง
"พามานอนไงครับ"
"นอนหรอฮะ?"
"ครับ.. แต่ก่อนนอน.. เรามาเล่นอะไรกันดีกว่า"
ริมฝีปากเล็กถูกฉกชิงอีกครั้ง ซูนยองนำให้คนใต้ร่างเป็นไปตามความต้องการของเขา สายฝนโปรยเบื้องนอกดังเคล้ากับเสียงหอบหายใจและเสียงจุมพิตที่ดูดดื่ม มือเล็กโอบรอบคอคนเบื้องบนอย่างเผลอตัวไป รั้งร่างสูงโปร่งให้มอบจุมพิตที่วาบหวามขึ้นอย่างไม่ลดละ
มันอาจไม่ถูกที่ซูนยองฉวยโอกาสกับเด็กหนุ่มไม่ได้สติเต็มที่
แต่บางอย่างในตัวของชานทำให้เขาหยุดตัวเองไม่ได้.. เป็นครั้งแรกที่เขาหลุดจากการควบคุม เสียงเทียนที่วูบไหวคงคล้ายสติที่ไม่มั่นคง
เสื้อยืดตัวใหญ่สำหรับชานเผยให้เขาเห็นแนวกระดูกไหปลาร้าที่สวยงาม ซูนยองผละจากปากบางเฉียบสีสด ก่อนจะกดจูบตามแนวกระดูกที่สวยอย่างนั้นด้วยริมฝีปากระอุ
"อื้อ.."
ซูนยองเคลื่อนริมฝีปากพรมจูบซอกคอขาว ดูดดึงและขบเม้มจนเกิดรอยสีกุหลาบ หลังคอขาวของเด็กใต้ร่างทำให้เขาอยากฝังจมูกสูดดมกลิ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดทั้งวันไม่ไปไหน เสียงครางอ่อนๆดังขึ้นข้างหู ลมร้อนที่เป่าเฉียดทำให้พายุกามารมณ์โหมเป็นเท่าตัว เด็กหนุ่มจิกไหล่เขาแน่นเมื่อใบหูเล็กถูกขบเม้มอย่างเอาแต่ใจ
"อ๊ะ พี่หมอ.. มัน.."
ร่างกายบดเบียดเข้าหาร่างนุ่มนิ่ม เสียดสีระหว่างกันจนกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดตัวโคร่งเลิกขึ้นเผยผิวกายละเอียดไปถึงไหนต่อไหน มือใหญ่สอดเข้าใต้สาบเสื้อตัวบางลากปลายนิ้วไล้ผิวนุ่ม ทิ้งรอยสัมผัสให้เด็กหนุ่มหายใจแรงขึ้นตามแรงอารมณ์ที่เพิ่มขึ้นสูง กระทั้งนิ้วเรียวหยุดมาหยอกเม็ดไตเล็กๆทั้งสอง
"อ๊ะ พ พี่หมอ อ๊า.. ช ชาน.."
สุ้มเสียงหวานครางไม่เป็นภาษา นายแพทย์หนุ่มยกยิ้มมุมปากบางๆ ก่อนซุกหลังคอขาวอีกครั้ง ลมหายใจร้อนเป่ารดซ้ำจนขนลุกตั้งชัน ใบหน้าอ่อนใสแดงจัด อกกระเพื่อมแรงตามจังหวะหายใจ
เขาชอบกลิ่นนี้.. จากหลังคอหอมกรุ่น
กลิ่นหอมที่ทั้งผ่อนคลายและปั่นประสาทจนแทบคลั่ง.. เหมือนสารเสพติดดีๆชนิดหนึ่ง
ซูนยองละมือจากเม็ดที่แข็งเป็นตุ่มไตไล่นิ้วขึ้นไล้แนวกระดูกงามอย่างหลงใหล นายแพทย์หนุ่มผละจากซอกคอขาวอย่างน่าเสียดาย ความเป็นตัวตนของเขาเริ่มคับแน่นกางเกง แต่ถึงกระนั้นซูนยองก็ยังคงใจเย็น
"พ พี่หมอ อึก นิสัยไม่ดี.."
มือหนาล้วงเข้าไปใต้กางเกงขาสั้นที่แสนหลวมโพรกของเด็กขี้เมาคนนี้ ฝ่ามืออุ่นร้อนสัมผัสต้นขาด้านในอย่างใจเย็น ผิวกายขาวเนียนที่ไร้ปราการใดถูกบีบเคล้น ก่อนที่เขาจะกอบกุมส่วนอ่อนไหวของเด็กหนุ่มไว้ได้ ใบหน้าใสขึ้นสีจัด มือเล็กพยายามปัดป่ายไม่ให้เขาได้กระทำล่วงเกินต่อสิ่งนั้น
"อ๊ะ พี่หมอ ย อย่า.. อ๊า ..ย อย่าทำอย่างนั้น"
นิ้วเรียวคลึงส่วนนั้นอย่างเชื่องช้า ผ่อนแรงหนักเบาสลับกัน ทำให้เสียงห้ามของเด็กหนุ่มกระเส่าขึ้นทุกที คนตัวเล็กหอบหายใจถี่ขึ้น ปากสีสดเผยอน้อยๆคล้ายกำลังกอบโกยอากาศให้เพียงพอต่อร่างกาย นายแพทย์หนุ่มโน้มตัวลงประทับริมฝีปากขณะที่มือใหญ่กำลังเร่งจังหวะต่อส่วนนั้นให้เร็วขึ้นเรื่อยๆจนร่างเล็กกระตุกเฮือก ส่งเสียงอื้ออึงดังออกมาจากลำคอ
"อื้อ! อื้ม.. อื้อ"
ซูนยองชอบที่จะหยอกล้อกับร่างกายของเด็กคนนี้ ไม่ว่าจะทางไหน.. การตอบรับที่ไร้เดียงสาและประสบการณ์ของชานทำให้เขาเอ็นดู และไม่ได้รำคาญใจแต่อย่างใด 
เขาชอบที่จะหยอกเย้า.. ปากสีสดเป็นกระจับ
เขาชอบที่จะหยอกเหย้า.. หลังคอขาวหอมกรุ่น
เขาชอบที่จะหยอกเหย้า.. ใบหูเล็ก

ชอบทุกอย่าง
แม้ในขณะนี้ที่มือหนาถอดกางเกงของเด็กใต้ร่างให้ออกไปพ้นตัวและเร่งจังหวะจนส่วนอ่อนไหวจนแข็งขัน ชานแอ่นสะโพกตอบรับสัมผัสจากมือของเขาอย่างเต็มที่ พร้อมเรียวขาที่เกี่ยวเอวสอบแน่น กายบางที่กระตุกเฮือกโอบกอดเขาแน่นทั้งยังไม่ผละริมฝีปากออกจากกัน มือเล็กกำเสื้อบนแผ่นหลังกว้างแน่นเสียจนมันยับยู่ยี่ ก่อนความทรมาณที่แสนสุขสมจะถูกปลดปล่อยไปในสายทางช้างเผือก
"อ๊า พ พี่หมอ.. แฮ่ก.. แฮ่ก.."
คราบขาวขุ่นที่เลอะเปรอะเปื้อนหน้าท้องเรียบ ที่ชายเสื้อยืดเลิกขึ้น ซูนยองละริมฝีปากออกอย่างเสียดาย ก่อนกวาดซับน้ำใสที่ไหลมุมปากทั้งสองข้างอย่างเชื่องช้า
"แฮ่ก.. แฮ่ก.. แฮ่ก.. "
ซูนยองปลดซิปออกอย่างรวดเร็ว มองใบหน้าใสที่ฉายแววเหนื่อยอ่อนอย่างเข้าใจ ว่าอีกฝ่ายังไม่พร้อมรับมืออะไรในตอนนี้ คุณหมอหนุ่มจึงเลิกเสื้อยืดให้สูงขึ้นจนเผยยอดอกสีสวย และแนวกระดูกไหปลาร้าได้รูป ปากร้อนกดจูบแนวกระดูกทั้งสองข้างอีกครั้ง ปลายจมูกสูดดมกลิ่นกายหอมจากแนวคาง ตาคมปรายมองมือเล็กทั้งสองข้างที่บัดนี้กำและจิกผ้าปูที่นอนแน่นจนยับย่น ลมหายใจหอบถี่ ซูนยองพรมจูบทั่วแผ่นอกเล็ก ก่อนกวาดล้างคราบเปื้อนสีขุ่นด้วยเรียวลิ้นอุ่นจัด เขายกเรียวขาทั้งสองข้างขึ้นพาดไหล่ ก่อนส่งนิ้วเรียวยาวไปช่องทางหลังอย่างใจเย็น แต่เด็กใต้ร่างคงไม่เคยผ่านมือใคร ถึงได้ผวาตกใจเฮือกใหญ่แล้วกอดเกี่ยวรัดตัวเขาแน่น ซูนยองส่งยิ้มบางๆ
เฮือก!
"ใจเย็นๆเด็กดี.. มันจะดีขึ้น"
พูดปลอบขวัญคนใต้ร่างที่บัดนี้น้ำตาคลอเบ้าอย่างใจเย็น
"จ เจ็บ.. พ พี่หมอ อึก!"
คนใต้ร่างร้องไห้ออกมาเมื่อเขาส่งนิ้วเข้าเพิ่มไปอีกนิ้ว
"มันจะไม่เป็นไร.. เด็กดี"
เขาจูบชานอีกครั้งเพื่อผ่อนคลายอาการเกร็ง ชานร้องไห้หนักขึ้น ซึ่งเขาก็ทำได้เพียงปลอบขวัญอีกฝ่ายให้หายกังวล ปรนเปรอสัมผัสวาบหวามจนหลงลืมความเจ็บปวดชั่วขณะ กระทั่งช่องทางหลังพร้อมที่จะถูกฝัง ชานผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อเขาถอนนิ้วออก ทว่ากลับแทนทีมันด้วยความเป็นตัวตนที่แข็งขัน ความตอดรัดจากภายในทำให้เขาฝังกายได้สุขสม ต่างจากผู้ถูกฝากไว้ในกาย ที่บัดนี้มีแต่ปริมาณน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย ยิ่งเมื่อเขาฝังกายได้ทั้งตัวจนรวมเป็นหนึ่งเดียว คล้ายว่าคนใต้ร่างจะจุกจนพูดไม่ออก
ซูนยองหยอกเหย้าหลังคอขาวอีกครั้ง แม้จะยังเป็นหนึ่งเดียว น้ำเสียงนุ่มกระซิบข้างหูเล็กว่า
"พร้อมไหมครับ"
ไม่มีคำตอบจากเด็กใต้ร่าง นอกจากจุมพิตหวานที่มอบให้

สายฝนเบื้องนอกยังคงตกกระหน่ำ ลมพายุพัดแรง จนเกิดเสียงหวีดหวิวดังคลอกัน
เด็กชายพเนจรที่หลงทางขึ้นเรือลำใหญ่ประสบปัญหาหนัก เมื่อลมพายุเข้าพัดกระหน่ำไม่ขาดช่วง เปลี่ยนทิศทางเดินเรือจนกระแทกโขดหินใหญ่ กระแทกกระทั้นจนเรือลำน้อยใกล้แตกพังเป็นเศษไม้
"อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ พ พี่หมอ ฮ แฮ่ก" 
แม้ว่าเรือลำน้อยจะถูกกระแทกโดนโขดหินมากเพียงใด ทว่าการผจญภัยท่ามกลางสายฝนที่ยังกระหน่ำก็ทำให้เด็กชายรู้สึกสนุกไปกับมันลึกๆ แม้เขาจะกลัวและภาวนาให้ตนกลับถึงพื้นดินอย่างปลอดภัย

ความอุ่นวาบแล่นเข้ามาในร่างกาย.. เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่อง

เฮือก!!!
กายเล็กกระตุกหนัก

"ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง.."
เด็กชายพเนจรเริ่มออกแล่นเรืออีกครั้ง เมื่อพายุสงบ.. การเดินทางครั้งใหม่เกิดขึ้นนับไม่ถ้วน จนร่างน้อยผล่อยหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อน.. ขณะที่ริมฝีปากยังถูกครอบครอง



กลับไปอ่านต่อที่หน้าเด็กดีนะตัว ยังมีต่อ
©t
h
e
m
y
b
u
t
t
e
r

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น